วิธีจุดเทียน
วิธีการจุดเทียนบูชาล้านนา
(ตำราจุดมนต์เสน่ห์ยันต์เทียน)
เทียนที่ท่านบูชาไปนั้น เป็นของศักดิ์สิทธิเป็นเทียนที่ลงอักขระอาคมกับกับไว้แล้ว ไม่ควรนำรอดลาวตากผ้าไว้ใต้เตียงนอนราวบันได
หรือที่ต่ำที่ไม่สมควรเด็ดขาด
การจุดเทียนนั้น
สิ่งที่ต้องเตรียม คือ
๑.ธูป
(ถ้าเป็นธูปหอมจะดี)
๒.ดอกไม้
สีไหนก็ได้ ถ้าเป็นเมตตาใช้ดอกแดงถ้าเสริมดวงหรือสืบชะตาให้ใช้ดอกขาว
หรือตามที่เราหาได้
๓.
น้ำ ๑ แก้วหรือเป็นขวด น้ำเปล่า
สถานที่ควรบูชาเทียนที่บ้าน
๑.ห้องพระ
๒.ศาลพระภูมิ/ศาลตายาย
๓.หน้าประตูบ้านชั้นใน(ในบ้านของเรา)
๔.กลางที่แจ้งจัดโต๊ะให้เป็นที่สูงพอสมควร
ธูปที่ควรใช้
ถ้าหน้าพระพุทธรูป ๙ ดอก ถ้าจุดที่บ้านหน้าหน้าศาลพระภูมิใช้ธูป
๕ ดอก ถ้ากลางแจ้งใช้ธูป ๑๖ ดอก
ขั้นตอนการจุดเทียน
เทียนสืบชะตา
สะเดาะเคราะห์บูชาโชคลาภ แก้ดวง หลีกเคราะห์ แก้คุณไสย์มนต์ดำ เสริมดวงด้านต่างๆ
๑.จัดของทั้งหมดธูปเทียนดอกไม้ให้พร้อมใส่พานเดียวกันยกขึ้นเหนือหัวแล้วสวด
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท
ธัสสะ (๓ จบ)
พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง
สังฆังอาราธนานัง
โอมสิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิตะริยะ
ตะถาคะโต๋ สิทธิอิติปิโส
ภะคะวา วะจะระลา มหาปิสสะหนู๋ กั๋นเจ๋วะ พุทธังประสิทธิเม.
ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย
อันมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ เจ้าบุญนายคุณ
เทพเทวาอารักษ์ทุกพระองค์ สิ่งศักดิ์ทุกรูปทุกปาง โปรดประสิทธิ ความเป็นมงคล
ความสวัสดี มั่งมีศรีสุข พรที่ขอแล้วที่จะตั้งจิตอธิษฐาน จงบังเกิดแก่ตัวข้าพเจ้า
นับแต่บัดนี้ และตลอดไป
พุทธังปะสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม
สังฆังประสิทธิเม
๒.จุดธูปที่จัดเตรียมไว้ก่อนแล้วปักลงกระถางธูปและจุดเทียนที่จะบูชาปักเรียงตามความสวยงามและสะดวกไม่ใกล้ไม่หางจนเกินไป
๓.เป็นการทำจิตใช้ให้สงบก่อนอธิฐานจิต การสวดมนต์หรือนั่งสมาธิตามที่ตนชอบ หากไม่มีเวลาปฏิบัติให้ตัดความกังวลต่างๆออกไปก่อนทำใจให้สงบสัก ๑ ถึง ๓ นาที แล้วจึงค่อยอธิฐาน
(การอธิฐานจิตนั้นไม่ควรอธิฐานแบบฟุ้งซ่านพร่ำเพื่อ คือการอธิฐานแบบมากจนจำไม่ได้ว่าอธิฐานอะไรบ้าง ควรอธิฐานเป็นข้อเป็นวรรคและชัดเจน)
ท่านใดจะสวดมนต์ก่อนอธิฐานบทสวดพุทธคุณเบื้องต้นที่แนะนำเพื่อทำจิตใจสงบก่อนนั่งสมาธิดังนี้
นะโม
ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม
ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม
ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
พุทธัง
สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง
สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง
สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิโส
ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อนุตตะโร
ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ
สวากขาโต
ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ
วิญญูหิติ
สุปะฏิปันโน
ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต
สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต
สาวะกะสังโฆ ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิอัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต
สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย
ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ
๑.
พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา
ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๒.
มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา
ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๓.
นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะ
วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๔.
อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโย ชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน
ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๕.
กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ
โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๖.
สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต
ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๗.
นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา
ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
๘.
ทุคคาหะ ทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ
วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
เอตาปิ
พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะเนกะวิวิธานิ
จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ
มหาการุณิโก
นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี
สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ
ชะยันโต
โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปัลลังเก
สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง
สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ จารีสุ
ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มโนกัมมัง ปะณิธี เต
ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัดเถ ปะทักขิเณฯ
ภะวะตุ
สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
ภะวะตุ
สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะธัมมา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
ภะวะตุ
สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
(ท่านใดสวดพุทธคุณบทใหญ่ๆ
เสริมได้เพิ่มจะเป็นการดีต่อตัวมากมีอานิสงส์มาก)
คาถาแผ่เมตตาตนเอง
อะหัง
สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
อะหัง
นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
อะหัง
อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร
อะหัง
อัพยาปัชโฌ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
สุขี
อัตตานัง ปะริหะรามิ ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ
รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพสัตตา
สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา
โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัชฌา
โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อนีฆา
โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขีอัตตานัง
ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิดฯ
เสร็จการสวดมนต์แล้วนั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบแล้วจึงตั้งจิตอธิฐานในสิ่งที่ตนตั้งใจไว้
เป็นการเสร็จวิธีการบูชาเทียน
วิธีการจุดเทียนเรียกจิตและเทียนคู่รัก
เทียนเสน่ห์เมตตามหานิยม
ทำตามขั้นตอนเหมือนกันคือ
๑.จัดของทั้งหมดธูปเทียนดอกไม้ให้พร้อมใส่พานเดียวกันยกขึ้นเหนือหัวแล้วสวด
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท
ธัสสะ (๓ จบ)
พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง
สังฆังอาราธนานัง
โอมสิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิตะริยะ
ตะถาคะโต๋ สิทธิอิติปิโส
ภะคะวา วะจะระลา มหาปิสสะหนู๋ กั๋นเจ๋วะ พุทธังประสิทธิเม.
ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย
อันมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ เจ้าบุญนายคุณ
เทพเทวาอารักษ์ทุกพระองค์ สิ่งศักดิ์ทุกรูปทุกปาง โปรดประสิทธิ ความเป็นมงคล
ความสวัสดี มั่งมีศรีสุข พรที่ขอแล้วที่จะตั้งจิตอธิษฐาน จงบังเกิดแก่ตัวข้าพเจ้า
นับแต่บัดนี้ และตลอดไป
พุทธังปะสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม
สังฆังประสิทธิเม
๒.จุดธูปที่จัดเตรียมไว้ก่อนแล้วปักลงกระถางธูปและจุดเทียนที่จะบูชาปักเรียงตามความสวยงามและสะดวกไม่ใกล้ไม่หางจนเกินไป
๓.เป็นการทำจิตใช้ให้สงบก่อนอธิฐานจิต คือการสวดมนต์หรือนั่งสมาธิตามที่ตนชอบ หากไม่มีเวลาปฏิบัติให้ตัดความกังวลต่างๆออกไปก่อนทำใจให้สงบสัก
๑ ถึง ๓ นาที แล้วจึงค่อยอธิฐาน
ส่วนคาถาที่ใช้ในการภาวนาคือ
จิตตังวา ปุปะปั๋งวา ธังวา ราชะกุมารังวา ราชะกุมารีวา
อิตถีวาปุริโสวา พานิโชวาพานิชาวา เอหิเอหิอาคัดฉันติ ปะริเสวันติจิตะ ระนะพันธัง
สวาหูม (สวด ๓ ครั้ง ๗ ครั้ง)
โอมจิตตะจิตตังปิยังมะมะ
ตั้งหัวใจหมาปะลาเข้าใส้หนูกิ๋นนมแมวกูก่อใจ๋เน้อนางเน้อ
โอม(...ชื่อคนที่จะให้มาหา) โอม(...ชื่อคนที่จะให้มาหา) โอม(...ชื่อคนที่จะให้มาหา)
โอมสวาสหูมติด
ข้าพเจ้าขออาราธนา คุณบิดามารดา
ครูบาอาจารย์ เทพเทวาอารักษ์ทุกพระองค์
สิ่งศักดิ์ทั้งหลาย โปรดประสิทธิ ให้ (...ชื่อคนที่เรารัก..หรือจุดเสน่ห์กับตัวเองให้กล่าวว่ามนุษย์ทั้งหลาย...)ให้กลับมาหาข้าพเจ้าในสามวันเจ็ดวันสิบห้าวันแดเทอญ
พรที่ขอแล้วที่จะตั้งจิตอธิษฐาน จงบังเกิดแก่ตัวข้าพเจ้า นับแต่บัดนี้ และตลอดไป
พุทธังปะสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม
สังฆังประสิทธิเม
เป็นการเสร็จพิธี